10 เคล็ดลับ เลือกกล้องวงจรปิด อย่างไรให้คุ้มค่า
top of page

10 เทคนิคเลือกซื้อกล้องวงจรปิด

อัปเดตเมื่อ 23 มี.ค. 2564




การติดตั้งกล้องวงจรปิด สำหรับยุคนี้ถือว่าจำเป็น และ ไม่ใช้เรื่องยุ่งยากวุ่นวายเหมือนสมัยก่อน เนื่องจากกล้องวงจรปิดในยุคนี้ ได้รับการพัฒนามาให้ติดตั้งง่ายขึ้น มีชนิดที่ไร้สาย ติดตั้งเองได้

เพิ่มเข้ามา ทำให้การติดตั้งกล้องวงจรปิดไม่ใช่เรื่องไกลตัวอีกต่อไป

ในสถานการณ์ปัจจุบัน เราไม่สามารถมั่นใจได้หรอกว่า เราจะไม่เจอเหตุการณ์ไม่คาดฝัน อย่างเช่น ตกเป็นผู้ต้องสงสัยในเหตุการณ์บางอย่าง, มีคนสนิทมาฉ้อโกง หรือ เพื่อนบ้านมาใส่ร้ายป้ายสี ฯลฯ

ไม่ว่าเหตุการณ์อะไร จะเล็กหรือใหญ่แค่ไหน ถ้าเรามีภาพ,เวลา,สถานที่ เป็นหลักฐานยืนยันเราก็จะสามารถผ่านเรื่องเหล่านั้นไปอย่างง่ายดาย แต่สำหรับคนธรรมดาทั่วไปอย่างเราๆ ที่ไม่ได้มีความเชี่ยวชาญด้านกล้องวงจรปิด อะไรมากมาย

จะเลือกซื้อกล้องอย่างไรดี? จึงจะเหมาะสม

วันนี้ Pixels CCTV มีเคล็ดลับมาฝากกันค่ะ


1. เลือกจากระบบการทำงาน Analog หรือ Digital


เพื่อสโคบตัวเลือกให้แคบลง และ ง่ายต่อการตัดสินใจ อันดับแรก

คุณต้องเลือกระบบการทำงานของกล้องวงจรปิดก่อน ซึ่งสามารถแบ่งเป็น

2 ระบบใหญ่ๆ คือ Digital และ Analog


Analog คือ กล้องวงจรปิดยุคแรก ๆ เป็นระบบที่ใช้สายสัญญาณ (Coax cable)

เช่น สาย RG6 RG11


ข้อดี : ราคาประหยัดกว่า และมีปัญหาน้อย ถ้าติดตั้งและวางระบบไว้อย่างดีแล้ว

การทำงานก็จะค่อนข้างเสถียรและนิ่ง

ข้อเสีย :ความคมชัดของภาพค่อนข้างน้อย เนื่องจากไม่สามารถส่งภาพที่มีความ

ละเอียดสูงได้ รวมถึงฟังก์ชั่นความสามารถพิเศษต่างๆ ไม่สามารถทำได้

เหมือนระบบดิจิทัล


Digital เป็นกล้องที่ต้องตั้งค่า IP ผ่านระบบเครือข่าย เพื่อกำหนดตัวตนในการ

แสดงภาพ และ ต้องอาศัยสายชนิด UTP หรือ สาย fiber optic

มาเป็นตัวเชื่อมโยงข้อมูล ซึ่งปัจจุบันพัฒนามาให้สามารถ ใช้งานผ่าน

ระบบไร้สายได้ (WiFi) ทำให้การใช้งานง่ายขึ้น


ข้อดี : มีความคมชัดสูง สามารถชัดได้ถึง Hidef คือ 1080P หรือ 2MP 5MP

รองรับการเทคโนโลยีใหม่ๆ ที่พัฒนามาเพื่อให้เข้ากับการใช้งานในยุคปัจจุบัน

อย่างเช่น การดูออนไลน์ และการแจ้งเตือนเรียลไทม์

ข้อเสีย : มีค่าใช้จ่ายที่สูงกว่าระบบอนาล๊อคเดิม และไม่สามารถเปลี่ยนหรือใช้ร่วมกับ

อุปกรณ์ยี่ห้ออื่นได้



คำแนะนำเพิ่มเติม : แนะนำให้เลือกแบบระบบดิจิทัล เพราะมีความคมชัดที่มากกว่า 
สามรถใช้เป็นหลักฐานได้ชัดเจน และมีเทคโนโลยีที่ทันสมัยกว่า เหมาะกับยุคปัจจุบัน


2. เลือกให้เหมาะสมกับสถานที่



การเลือกใช้กล้องให้เหมาะกับสถานที่ก็เป็นอีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญ เพราะถ้าเลือกผิด

อาจทำให้เสียเงินเยอะเกินจำเป็น หรือกล้องอาจเสียหายไวกว่าที่ควรจะเป็น ยกตัวอย่างเช่น


ติดบ้าน ติดสวน โรงงาน

>> จำเป็นต้องส่องมุมนอกบ้านด้วย ควรเลือกกล้องที่สามารถกันน้ำได้ รวมถึงวัสดุที่ใช้

ควรเป็นเหล็ก เนื่องจากหากเป็นพลาสติก ตากแดด ตากฝนนานๆ จะเกิดความเสียหายได้

และ มีอายุการใช้งานที่ต่ำไม่คุ้มค่า


ติดในออฟฟิศ

>> เพื่อให้มีประสิทธิ์ภาพสมบูรณ์ และใช้ประโยชน์ได้จริง ควรเป็นกล้องที่สามารถฟังเสียงได้

เพื่อก็มอนิเตอร์งาน ที่ครบถ้วนสมบูรณ์ ทั้งภาพและเสียง


ติดในบ้านเพื่อดูน้อย พี่เลี้ยง หรือ พ่อแม่

>> ควรเป็นกล้องที่สามารถ พูดคุย สื่อสาร ระหว่างกันได้ อย่างเช่น กล้องRobot ตัวเล็กๆ

ติดตั้งไว้ภายในบ้าน และสามารถโยกย้ายเปลี่ยนมุมได้ตามสะดวก



3. เลือกจำนวน



กล้องวงจรปิดชุดพื้นฐาน จะประกอบด้วยกล้องจำนวน 4 ตัว สำหรับบ้านขนาดประมาณ 70 ตารางเมตร 1 หลัง ก็ถือว่าเอาอยู่ถ้าพื้นที่กว้าง หรือ ใหญ่กว่านี้ อาจจะต้องอัพเป็น ชุด 8 กล้อง


แต่เหนือสิ่งอื่นใด เจ้าของบ้านเองจะรู้จุดบอด หรือ จุดเสี่ยงของบ้านดีที่สุดบางที 4 ตัว

อาจจะไม่พอ อาจจะต้องเพิ่มเติม กล้องStand Alone ตัวเล็ก 1-2 ตัว สิ่งสำคัญที่สุดที่ควรคำนึงถึง

คือ หากมุมใดมุมหนึ่งหายไป อาจเป็นจุดบอดที่ทำให้โจร หรือผู้กระทำผิดใช้เป็นจุดหลบหลีกเอาตัวรอดได้



4. ใช้งานไม่ยุ่งยาก



คุณควรเลือกกล้องวงจรปิดรุ่นใหม่ๆ ที่ถูกพัฒนามาให้ผู้ใช้ ใช้งานได้ง่ายเพราะ

หากเกิดปัญหาขัดข้องเล็กๆน้อยๆขึ้น คุณจะสามารถแก้ไขได้เอง ไม่ต้องลำบากเรียกช่าง

มาดู หรือหากคุณจะยกย้ายเปลี่ยนมุม คุณก็จะสามารถทำได้เองง่ายๆ ไม่ต้องรอช่าง


5. เลือกให้นำเทคโนโลยี




ยุคสมัยนี้ทุกคนรู้กันดีว่า เทคโนโลยีมีการพัฒนาขึ้นมาเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะAi

ที่ฉลาดขึ้นทุกวัน แทนที่เราจะกลัวการ Disrup ของเทคโนโลยี เราควรใช้มัน ทำให้ชีวิตของ

เราง่าย และปลอดภัยขึ้นดีกว่า อย่างการเลือกกล้องวงจรปิด ก็ควรเลือกกล้องที่พัฒนามา

ให้สามารถ รองรับการใช้งานผ่านมือถือ และระบบต่างๆที่จะมีในอนาคต ให้เราควบคุม

ทุกอย่างได้ด้วยมือเราเอง และ สามารถทำได้ทุกที่ทุกเวลา





6. บริการและประกัน




สิ่งที่สำคัญไม่แพ้ฟังก์ชั่นการใช้งาน คือเรื่องของการดูแล และรับประกัน

หลังการขาย เพราะกล้อวงจรปิดเป็นสินค้าอิเลคทรอนิค ที่มีสิทธิ์เกิดการรวนของ

ระบบได้ ถ้าเราเลือกสินค้าที่การรับประกันสั่นเกินไป หรือ ไม่มีเจ้าหน้าที่คอย

ซับพอร์ตหลังการขาย คุณอาจจะต้องยุ่งยาก หาช่างอื่นๆมาซ้อม หรือ อาจจะต้อง

ซื้อกล้องมาติดใหม่กันเลยทีเดียว



7. แบรนด์ที่เชื่อใจ



ความน่าเชื่อถือของแบรนด์ เป็น 1 สิ่งที่ควรคำนึงถึง อย่างน้อยที่สุด

แบรนด์ที่เลือกควรได้รับการการันตีจากทั้งผู้เชี่ยวชาญ และ ผู้ใช้ที่ใช้สินค้าจริง

ว่าคุณภาพสินค้า และการดูแลหลังการขายดีจริงๆ



8. ระบบการแจ้งเตือน



ระบบการแจ้งเตือน ถือเป็นปัจจัยพื้นฐานไปแล้วที่กล้องวงจรปิดควรมี

เพราะแน่นอนถึงเราจะติดกล้องไว้ เราก็ไม่มีเวลามากพอที่จะต้องนั่งเช็คกล้องอยู่

ตลอดเวลา ฟังก์ชั่นการแจ้งเตือน จึงจะช่วยให้เราอุ่นใจได้ ว่าถ้าเกิดเหตุไม่คาด

ขวัญขึ้นมา เราจะรู้ตัว และแก้ไขได้ทันท่วงที การแจ้งเตือนที่ดี ควรแจ้งเป็นภาพ

เพื่อความไม่ยุ่งยาก และ ทันท่วงที ดีที่สุดควรแจ้งเตือนใน Application ที่เรา

ใช้งานอยู่ในชีวิตประจำวัน เช่น Line เป็นต้น


9. ระบบการป้องกันข้อมูลส่วนตัว



กล้องวงจรปิดเป็นอุปกรณ์ที่ใช้รักษาความปลอดภัย ซึ่งแน่นอนว่า

สิ่งที่กล้องบันทึกได้ เป็นข้อมูลที่ส่วนตัวมาก การเลือกกล้องที่มีความน่าเชื่อถือ

มีบริษัท หรือ แหล่งที่มาชัดเจน ใช้ระบบ cloud server ที่น่าเชื่อถือ อย่างเช่น

Amazon Cloud, IBM Cloud, VMWare เป็นต้น ก็เป็นอีกทางหนึ่งที่คุณจะ

มั่นใจได้ว่า กล้องวงจรปิดที่คุณเลือก มันมีระบบการป้องกันข้อมมูลส่วนตัวได้ดี


10. ราคาที่เหมาะสม



การเลือกซื้อกล้องวงจรปิด หรือแม้แต่สินค้าประเภทอื่นๆก็ตาม

ไม่ควรเลือกราคาที่ต่ำเกินไป เพราะนอกจากคุณอาจจะได้สินค้าที่ต่ำกว่า

มาตรฐานแล้วนั้น คุณอาจจะต้องเสียน้อย เสียยาก เสียมาก เสียง่าย

เนื่องจากเจอปัญหาการดูแลหลังการขายในระยะยาว ถึงขั้นต้องเปลี่ยน

ใหม่ยกชุดเลยทีเดียว



#PixelsCCTV #pixels #กล้องวงจรปิด #ไร้สาย #ดูผ่านมือถือ #แจ้งเตือนผ่านLINE


ติดตาม Pixels CCTV ได้ ที่นี่ และ ทุกๆช่องทาง

Line@ : @pixelscctv

ดู 2,767 ครั้ง0 ความคิดเห็น
bottom of page